เพราะโรงเรียนเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีสมาชิกทั้งเด็กและผู้ใหญ่จากหลากหลายพื้นที่มารวมกัน ดังนั้น การให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและสุขภาพจึงเป็นสิ่งที่โรงเรียนทอสีให้ความสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่นๆ ทำให้โรงเรียนต้องออกแบบมาตรการที่ปรับตัวตามยุคสมัยอยู่เสมอ โดยเน้นที่ 3 หัวใจหลัก นั่นคือ เรื่องสุขภาพ ฝุ่นละออง PM 2.5 และโภชนาการอาหาร
นอกจากการออกแบบมาตรการต่างๆ เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ปลอดภัยของสมาชิกในชุมชนแล้ว โรงเรียนทอสียังใส่ใจไปถึงแนวทางการรับมือเรื่องสุขภาพที่เด็กๆ คุณครูและผู้ปกครองจะสามารถนำไปปรับใช้ได้ด้วย
ทุกเช้าเมื่อเด็กๆ มาถึงโรงเรียนจะต้องผ่านขั้นตอนการตรวจวัดอุณหภูมิ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกๆ คนที่ผ่านเข้ามามีสุขภาพปกติไม่เป็นพาหะส่งต่อโรคสู่สมาชิกในชุมชนคนอื่นๆ หากมีอาการป่วยไข้ น้ำมูกไหล หรือกรณีที่มีความเสี่ยงรุนแรง ทางโรงเรียนจะขอให้ผู้ปกครองมารับกลับบ้านเพื่อพักผ่อนและพบแพทย์ให้หายดีก่อน ดูรายละเอียดได้จากแนวปฏิบัติเพื่อป้องกันและลดการแพร่กระจายของโรงเรียน
ในขณะเดียวกันคุณครูห้องพยาบาลก็มีกิจกรรมเข้าใจง่ายสอนเด็กๆ ทุกระดับชั้น ให้รู้จักป้องกันตัวเองเบื้องต้นให้ห่างไกลจากโรค
ทุกๆ ปี โรงเรียนทอสีได้จัดทำประกันอุบัติเหตุให้นักเรียน ทุกคน และยังมีบริการฉีดวัคซีนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายจากศูนย์บริการสาธารณสุขที่ดูแลเขตโรงเรียน ให้กับนักเรียนชั้น ป.1 ป.5 และ ป.6 รวมทั้งวัคซีนไข้หวัดใหญ่แบบสมัครใจให้กับคุณครูและบุคลากรด้วย
ในด้านความปลอดภัย เด็กๆ จะได้เรียนรู้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นในวิชาสุขศึกษา เพื่อฝึกการช่วยเหลือตนเองและเพื่อนๆ หากเกิดอุบัติเหตุจากการเล่นหรือทำกิจกรรม เช่นเดียวกัน คุณครูในทุกระดับชั้นต้องเข้าอบรมกับโรงพยาบาล ซึ่งจะมาสอนการปฐมพยาบาลเบื้องต้นทุกปีเว้นปี เพื่อให้คุณครูสามารถช่วยเหลือเด็กๆ ได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
เอกสารประกันอุบัติเหตุ
วิธีการส่งเอกสารเบิกค่าสินไหมประกันอุบัติเหตุนักเรียน
แบบเรียกร้องสินไหม นวกิจประกันภัย
‘กินเป็นอยู่เป็น’ คือหลักการรับประทานอาหารจากหนังสือของท่าน ป. อ. ปยุตฺโต ที่โรงเรียนทอสียึดถือเป็นแนวทางในการจัดอาหารของโรงเรียน
โรงเรียนจัดอาหารว่างและอาหารกลางวันตามหลักโภชนาการและมีขั้นตอนปรุงอาหารตามหลักสุขาภิบาล อาหารของโรงเรียนทอสี ยังช่วยให้เด็กๆ ได้ฝึกการรับประทานที่หลากหลาย เช่น ของว่างในแต่ละวันของสัปดาห์จะผลัดเปลี่ยนกันไปตั้งแต่เบเกอรี่ แซนด์วิช ธัญพืช ไปจนถึงขนมไทย หรือของว่างบ่ายที่มีเพิ่มสำหรับเด็กๆ อนุบาลอาจเป็นขนมไทยที่เด็กๆ ไม่คุ้นเคยนักเพื่อทำความรู้จักและฝึกรับประทานขนมไทยที่หลากหลายอย่างข้าวเหนียวเปียก ถั่วดำน้ำกะทิ หรือถั่วเขียวต้มน้ำตาล ที่ฝ่ายครัวตั้งชื่อให้ว่า ‘ถั่วเขียวต้มน้ำตา’ เพราะเคยมีเด็กๆ ที่ไม่ชอบกินแอบงอแงอยู่บ้าง
ส่วนอาหารกลางวัน เด็กๆ และคุณครูในโรงเรียนจะรับประทานอาหารเมนูเดียวกัน เพิ่มเติมสำหรับน้องเล็กที่จะหั่นให้เคี้ยวง่าย ปรุงให้เผ็ดน้อย และมีการรับประทานอาหารมังสวิรัติง่ายๆ ทุกวันพระ โดยวัตถุดิบในการปรุงอาหารของทอสีจะเน้นของดีมีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่เบทาโกร ข้าวอินทรีย์จาก "สุขทุกคำ"
ทุกๆ เดือนโรงเรียนจะแจ้งเมนูอาหารล่วงหน้าไว้ในเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้ปกครองเข้าไปตรวจสอบเมนูอาหาร และจัดเตรียมอาหารให้กับเด็กๆ ในกรณีที่มีอาการแพ้ อย่างไรก็ตามคุณครูประจำชั้นและคุณครูห้องพยาบาลจะคอยดูแลเรื่องอาหารการกินของเด็กๆ อีกต่อหนึ่งเมื่อถึงโรงเรียน